การฝึกลูกสุนัขให้เชื่อง | โรงพยาบาลสัตว์เอราวัณ

การฝึกลูกสุนัขของคุณให้ว่านอนสอนง่ายคืออะไร
การฝึกให้ลูกสุนัขของคุณว่านอนสอนง่ายจะทำให้เขาเรียนรู้บทบาทของตนเองในครอบครัวของคุณและในโลกนี้ด้วย การฝึกให้พวกเขาว่านอนสอนง่ายจะเป็นการสอนทักษะที่จำเป็นในการปฏิสัมพันธ์กับสุนัขตัวอื่น และกับผู้คนทั้งในและนอกบ้านของคุณ การฝึกลูกสุนัขคือขั้นตอนแรกในการสอนพฤติกรรมที่ดี และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ไม่ดี บ่อยครั้งที่สุนัขเริ่มเรียนต้นการฝึกด้วยการเรียนรู้คำสั่งง่ายๆ เช่น "นั่ง" และ "อยู่กับที่” แล้วต่อมาพวกเขาถึงสามารถจะได้รับการฝึกแบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่นวิธีการอยู่ในกรงโดยไม่ร้องครวญคราง หรือวิธีการนั่งรออย่างอดทนโดยไม่อ้อนวอนขออาหารกิน ขณะที่ครอบครัวกำลังรับประทานอาหารเย็นกันอยู่

สิ่งที่ดีที่สุดในการฝึกสุนัขที่บ้านคือ คุณสามารถกำหนดการฝึกของคุณให้เข้ากับสุนัขและการใช้ชีวิตของคุณในรูปแบบเฉพาะตัวได้ คุณสามารถเริ่มต้นได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าทักษะใดจะผิดหรือถูก สิ่งสำคัญที่สุดคือ การสอนทักษะจำเป็นที่สุนัขต้องใช้ในการเป็นผู้ฟังที่ดี และทำตามคำสั่งของคุณ

การฝึกลูกสุนัขให้เชื่องนั้นสามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงทำตามหลักการ 3 ข้อ ดังนี้

1. เริ่มฝึกตั้งแต่ยังเล็ก
ช่วงเวลาที่เหมาะกับการฝึกลูกสุนัขมากที่สุดก็คือ ช่วงอายุตั้งแต่ 1-3 เดือน ซึ่งเป็นช่วงที่ลูกสุนัขกำลังมีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว และกำลังเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัว

2. ฝึกอย่างสม่ำเสมอ
การฝึกลูกสุนัขควรฝึกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ลูกสุนัขเกิดการเรียนรู้และจดจำคำสั่งได้

3. ใช้วิธีการฝึกแบบบวก
การฝึกแบบบวก คือ การใช้วิธีการให้รางวัลเมื่อลูกสุนัขทำตามคำสั่ง จะช่วยให้ลูกสุนัขเกิดความสนุกสนานในการฝึก และเกิดแรงจูงใจที่จะเรียนรู้ต่อไป

พฤติกรรมที่ต้องระวัง
คุณจำเป็นที่จะต้องรู้ถึงชนิดของปัญหาที่คุณต้องการจะหลีกเลี่ยง เพื่อที่คุณจะได้สามารถสอนนิสัยที่ดีให้กับสุนัขของคุณได้ตั้งแต่เริ่มต้น เจ้าของสัตว์เลี้ยงบางคนไม่อยากจะให้เขาเห่ามากเกินไป ขณะที่คนอื่นๆ อาจกังวลที่สุนัขไปเคี้ยววัตถุที่ไม่ใช่อาหาร (อย่างพวกไม้ประดับอันตราย หรือรองเท้าของพวกเขา) การขุดคุ้ย การอ้อนวอน การกัด การขโมยอาหาร และการปัสสาวะในบ้าน ก็เป็นปัญหาอื่นๆ ที่ผู้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงต้องการจะหลีกเลี่ยง

การอ่านภาษากายของลูกสุนัขคุณ
บ่อยครั้งที่ช่วงเวลาอาหารเย็นเป็นช่วงเวลาที่ยากที่สุดที่จะสอนลูกสุนัขของคุณให้ว่านอนสอนง่าย เขาจะเห็นคุณเป็นจ่าฝูงที่กำลังทานอาหารด้วยความเอร็ดอร่อย และเงยหน้ามองคุณด้วยสายตาวิงวอนของลูกสุนัข และสุดท้ายคุณก็ต้องยอมแพ้ นี่เป็นสิ่งที่คุณจะต้องเข้มแข็งและหลีกเลี่ยงการให้เศษอาหารเหลือจากโต๊ะอาหารกับเขา วิธีการนี้จะช่วยเลี่ยงไม่ให้น้ำหนักขึ้น และสอนให้เขารู้ว่าการอ้อนวอนขอกินไม่ได้ช่วยอะไร ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทั้งครอบครัวจะทำตามกฏนี้ พฤติกรรมการฝึกที่แย่จากคนใดคนหนึ่งในครอบครัวสามารถทำให้ทุกอย่างที่คุณพยายามสอนลูกสุนัขมา ไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้

สัญญาณของความก้าวร้าวและความอ่อนน้อม
หากลูกสุนัขของคุณกำลังรู้สึกห้าวหาญหรือก้าวร้าว เขาจะพยายามทำตัวเองให้ดูใหญ่ขึ้นโดยพยายามยืนให้ดูสูงๆ พร้อมหูและหางที่ตั้งตรง และเขาจะโก่งตัวขึ้น และพองขนตั้งในบริเวณช่วงคอและหลัง เขาอาจคำรามหรือกระดิกหางไปมาอย่างช้าๆ

ในทางตรงกันข้าม สุนัขที่อ่อนน้อมจะพยายามทำตัวเองให้ดูตัวเล็ก และทำตัวเหมือนลูกสุนัข สิ่งนี้เป็นเพราะสุนัขโตจะ “ดุว่า” ลูกสุนัขแต่ไม่ทำร้ายเขา ความอ่อนน้อมจะมาในรูปแบบของการหมอบตะแคงลงไปด้านข้างใกล้กับพื้น หางลดลงต่ำแต่ยังคงกระดิกไปมา เขาอาจจะเลียหน้าของสุนัขที่เหนือกว่าหรือมนุษย์ เขาอาจจะนอนหงายกลิ้งไปมา

ไม่ว่าจะเป็นกรณีใด คุณจำเป็นต้องฝึกเขาให้เลิกมีพฤติกรรมเหล่านี้ ไม่ว่าจะลดความก้าวร้าวลง หรือช่วยให้เขามีความมั่นใจเพิ่มขึ้น และไม่หงอ

การเห่าหรือร้องครวญคราง
แม้ว่าการเห่าและการร้องครวญครางจะน่ารำคาญนิดหน่อยหรือน่าอายก็ตาม คุณก็ควรจำไว้ว่านั่นคือพฤติกรรมและการสื่อสารตามธรรมชาติของสุนัขคุณ ดังนั้นคุณต้องทำให้สุนัขของคุณรู้เมื่อใดที่ควรเห่า เมื่อใดที่ไม่ควร แต่ท้ายที่สุดแล้ว คุณก็ต้องการให้สุนัขของคุณเตือนคุณเมื่อเขาได้ยินผู้บุกรุก แต่ไม่ใช่ทุกครั้งเมื่อเขาเห็นกระรอก

ในทางตรงข้าม คุณไม่ควรให้รางวัลกับการร้องครวญคราง เมื่อสุนัขของคุณร้องครวญคราง แล้วคุณเข้าไปปลอบเขา คุณกำลังสนับสนุนพฤติกรรมนั้น ทำให้เขาจะร้องสะอื้นต่อไปแล้วให้คุณมาปลอบ ในกรณีนี้ คุณจะต้องไม่สนใจการร้องครวญครางของลูกสุนัข - แน่นอนว่าหักใจได้ยากมาก แต่แต่คุณจะยินดีที่เสียงร้องสะอื้นนั้นหยุดลงและคุณจะได้หลับได้เต็มอิ่มทั้งคืนสักที

สุดท้ายแล้ว การเข้าสังคมกับเด็กๆ และสัตว์อื่น ก็เป็นเหตุผลสำคัญที่ผู้คนเริ่มการฝึกให้ลูกสุนัขว่านอนสอนง่าย การที่คุณจะเชิญผู้คนมาในบ้าน และพาสุนัขของคุณออกไปสู่โลกกว้าง คุณต้องมั่นใจก่อนว่าเขาจะสามารถสื่อสารได้อย่างปลอดภัย มีมารยาททางสังคมกับเพื่อนขนฟูด้วยกัน และผู้คนทุกวัย เด็กๆ มักทำให้สัตว์เลี้ยงตกใจอยู่บ่อยๆ ดังนั้นการทำให้พวกเขารู้ถึงวิธีการประพฤติตัวกับเด็กๆ แม้ว่าบางคนจะไม่ได้อาศัยอยู่ที่บ้านคูณก็ตาม จึงเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกด้วย สุนัขของคุณอาจยังคงได้พบเจอเด็กๆ ตอนเดินเล่น และคุณอยากรู้ว่าพฤติกรรมเอาแน่เอานอนไม่ได้ หรือก้าวร้าวที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งของพวกเด็กๆ จะไม่ทำให้สัตว์เลี้ยงคุณกลัวหรือรำคาญ

แม้ว่าคุณอาจจะกังวลปัญหาหนึ่งหรือสองอย่างเป็นพิเศษ แต่เขาก็จำเป็นที่ต้องทำการฝึกพฤติกรรมและการเข้าสังคมทั้งหมด เมื่อนำการฝึกให้สุนัขว่านอนสอนง่ายมาใช้ที่บ้าน การคิดเอาไว้ว่าคุณต้องการจะมุ่งเน้นไปที่ไหนในช่วงเริ่มจะช่วยให้คุณเริ่มต้นได้อย่างถูกต้อง แค่จำไว้ว่าควรฝึกฝนทุกพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องตลอดระยะเวลาที่คุณใช้ในการฝึก

ให้รางวัลลูกสุนัขของคุณ
แรงจูงใจของสุนัขมาจากการยกย่องชมเชยและให้รางวัล สร้างการเชื่อมโยงแง่บวกสำหรับลูกสุนัขของคุณ เมื่อเขาทำตามคำสั่ง ด้วยการพูดให้กำลังใจ หรือแบ่งปันขนมหรืออาหารเม็ด หรือ ขนมที่มีประโยชน์ต่อสุนัข. การให้รางวัลไม่เพียงทำให้การฝึกสนุกสนานขึ้นเท่านั้น แต่ยังให้แรงจูงใจกับเขาในการทำอะไรสักอย่างด้วย แต่ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าขนมที่ให้จะไม่ทำให้ปริมาณแคลอรี่ที่กำหนดให้บริโภคในแต่ละวัน เพิ่มเกินกว่าสิบเปอร์เซนต์ เพื่อที่เขาจะได้ไม่มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างไม่จำเป็น

สุนัขจะมีแรงจูงใจในการทำให้เจ้าของพอใจ แต่เขา (เหมือนกับมนุษย์) ตรงที่ก็มองหาโอกาสในการได้รับคำชมเชยและรางวัล เมื่อสุนัขของคุณเริ่มเรียนรู้แต่ละคำสั่งแล้ว ก็อย่าลืมที่จะไม่ให้เขากินขนมแค่ครั้งเดียว วิธีนี้จะทำให้เขาเกิดความมั่นใจในการทำตามคำสั่งด้วยตัวเขาเอง และสอนเขาว่าไม่ใช่ทุกอย่างที่ทำได้ดีจะต้องได้รับรางวัลเป็นขนมเสมอไป

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.hills.co.th